การใช้งานและการบำรุง ดูแลรักษาระบบแก๊สรถยนต์
การใช้งานรถยนต์ที่ติดตั้งแก๊สนั้นมีความสะดวกและใช้งานง่ายแทบไม่ต่างกับการใช้รถที่ใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียวเลย นอกจากนี้รถใช้แก๊สยังช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากอีกด้วย ถ้าผู้ใช้หมั่นใส่ใจบำรุงรักษารถติดแก๊สให้ถูกวิธีอยู่เสมอ ก็จะสามารถใช้งานรถได้อย่างปลอดภัย สบายใจ เครื่องยนต์ไม่สึกหรอเร็วเกินควรอีกด้วย
รถติดแก๊สมีวิธีการใช้งานง่ายๆ เบื้องต้น ดังนี้
1. การใช้งาน Auto Switch
- สตาร์ทรถทุกครั้ง จะใช้น้ำมันก่อนเสมอ (ไฟสัญญาณการใช้แก๊สที่ Auto Switch จะกระพริบ ไฟสัญญาณ
การใช้น้ำมันจะติดค้าง)
- ระบบจะสลับไปใช้แก๊สอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นและรอบเครื่องยนต์สูงถึงค่าที่กำหนดไว้
(ไฟสัญญาณการใช้แก๊สที่ Auto Switch จะติดค้าง ไฟสัญญาณการใช้น้ำมันจะหายไป) ผู้ใช้สามารถ
ออกรถได้เลยโดยไม่ต้องรอให้ตัดเข้าระบบแก๊สก่อน
- ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานระบบน้ำมันหรือเปลี่ยนมาใช้ระบบแก๊สอีกครั้งในขณะรถวิ่งได้โดยกดที่ Auto
Switch โดยไม่ต้องมีการหยุดรถ (ควรทำในขณะรถมีรอบเครื่องยนต์ไม่สูงมากนัก)
- เมื่อแก๊สไกล้หมด ไฟบอกระดับแก๊สที่ Auto Switch จะขึ้นสีแดงเตือนให้ผู้ใช้ทราบว่าแก๊สเหลือน้อย
ถ้าเติมแก๊สจนเต็มถังไฟบอกระดับแก๊สจะขึ้นเต็มทุกช่องและไฟสีแดงจะหายไป
ระดับแก๊สเหลือน้อย ระดับแก๊สเต็มถัง
- เมื่อแก๊สหมด ระบบจะสลับไปใช้น้ำมันโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ดับขณะขับขี่ Auto Switch
จะส่งเสียงร้องเตือนผู้ใช้ดังปิ๊ป ๆ เป็นจังหวะสั้น ๆ ผู้ใช้ต้องกดปุ่มที่ Auto Switch เพื่อให้เสียงเงียบลง
Auto Swicth อยู่ในโหมดใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง
- เมื่อระบบแก๊สเกิดปัญหาเช่น เกิดมีการรั่วอย่างรุนแรง ท่อแก๊สฉีกขาด แรงดันแก๊สมีการลดมาก สายไฟ
ในระบบแก๊สหลุด ขาด ระบบจะตัดการจ่ายแก๊สทันที และสลับไปใช้น้ำมันอัตโนมัติ Auto Switch จะส่ง
เสียงร้องเตือนผู้ใช้ดังปี๊ป เป็นจังหวะยาว ๆ ผู้ใช้กดปุ่มที่ Auto Switch เพื่อให้เสียงเงียบลงและนำรถเข้า
ตรวจเช็คที่ศูนย์บริการแก๊สที่ไกล้ที่สุดทันที
- กรณีที่ผู้ใช้ได้กลิ่นแก๊สรั่วเข้ามาที่ห้องโดยสารในขณะขับขี่ด้วยระบบแก๊ส ผู้ใช้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยให้
กดปุ่มที่ Auto Switch เพื่อตัดการใช้งานระบบแก๊ส หรือหมุนปิดวาล์วที่ถังแก๊สตามเข็มนาฬิกาจนสุด
กดสวิตซ์สลับมาใช้งานน้ำมันและนำรถเข้าตรวจเช็คกับศูนย์บริการแก๊สที่อยู่ไกล้ทึ่สุดทันที
- กรณีที่เกิดการรั่วไหลของแก๊สที่วาล์วถัง ผู้ใช้ต้องหาที่จอดรถในที่โล่ง ดับเครื่องรถยนต์และเปิดฝากระโปรง
ด้านท้าย และประตูรถออกให้แก๊สระบายออกจนหมด แล้วขับรถด้วยระบบน้ำมันเข้าศูนย์บริการแก๊สที่ไกล้
ที่สุดทันที *ควรมีสเปรย์กระป๋องขนาดพกพาติดรถไว้ในยามฉุกเฉิน
- ถ้าหากสวิทช์แก๊สแสดงผลไม่ตรงหรือทำงานผิดปกติ ผู้ใช้ควรนำรถเข้าตรวจเช็คกับทางศูนย์บริการแก๊ส
เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขได้ตรงจุด
- ในกรณีที่น้ำมันหมดถัง หรือไม่สามารถสตาร์ทรถด้วยระบบน้ำมันได้ ผู้ใช้สามารถสตาร์ทรถด้วยแก๊สได้โดย
กดค้างที่ปุ่ม Auto Switch พร้อมกับการบิดกุญแจสตาร์ทรถ เพียงเท่านี้รถจะสตาร์ทขึ้นมาโดยใช้ระบบ
แก๊สทันที (วิธีนี้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ไม่ควรทำบ่อย ถ้าเกิดปัญหาสตาร์ทรถด้วยน้ำมันไม่ติดควรนำรถ
เข้าตรวจเช็คกับศูนย์บริการรถยนต์ทันที)
2. การดูแลรถหลังการติดตั้ง
- ในช่วง 7 วันแรกหลังการติดตั้ง ผู้ใช้รถควรตรวจดูระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำ ในตอนเช้าก่อนสตาร์ทรถ
เนื่องจากอาจมีการรั่วซึมตามข้อต่อของน้ำหล่อเย็นที่ไหลวนผ่านหม้อต้ม หากระดับน้ำมีการลดหาย
ผู้ใช้ควรนำรถเข้าตรวจเช็คกับศูนย์บริการที่ทำการติดตั้ง และควรมีการตรวจเช็คทุก ๆ เดือน เพื่อป้องกัน
การลดหายของน้ำหล่อเย็นและทำให้เครื่องยนต์เกิด Over Heat ซึ่งอาจทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์
เสียหายตามมาได้
- นำรถเข้าเช็คระยะตามกำหนดและบำรุงรักษากับทางศูนย์รถยนต์ได้ตามปกติ รวมถึงการเช็คระยะซึ่งโดยปกติ
แนะนำให้ตรวจเช็คทุก 10,000 กม. และบำรุงรักษาตามคู่มือของศูนย์บริการที่นำรถเข้าติดตั้งแก๊สสม่ำเสมอ
- เปลี่ยนกรองแก๊สและกรองหม้อต้ม ทุก ๆ 20,000 กม. ควรเหลือน้ำมันในถังอย่างน้อย 1/4 ของถัง
กรองแก๊ส
- หมั่นตรวจเช็ครอยรั่วซึมของก๊าซตามข้อต่อและจุดต่าง ๆ อาจใช้น้ำสบู่ หากมีการรั่วจะเกิดฟองแก๊สเกิดขึ้น
- หมั่นทำความสะอาดกรองอากาศอยู่เสมอ หรือ ทุก 5,000 กม. เพื่อให้อากาศเข้าไปเผาไหม้กับเชื้อเพลิง
ได้เต็มประสิทธิภาพจะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและเผาไหม้สะอาด ลดมลพิษมากยิ่งขึ้น
- เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเร็วขึ้นเล็กน้อยในกรณีที่ไช้น้ำมันเครื่องเดิม หรือใช้น้ำมันเครื่องสำหรับรถติดแก๊ส
ซึ่งมีทั้งชนิดสังเคราะห์แท้และกึ่งสังเคราะห์ซึ่งจะมีความทนต่อความร้อนมากยิ่งขึ้นทำให้ช่วยลดการสึกหรอ
ของเครื่องยนต์ได้ดีมากยิ่งขึ้น
- คอยสังเกตปริมาณแก๊สที่เติมเต็มถังในแต่ละครั้งว่าวิ่งได้ระยะทางเท่าใดถ้าใช้จนหมดถัง ถ้าหากมีครั้งใดที่
มีการเติมแก๊สในถังแล้ววิ่งได้ระยะทางน้อยกว่าเดิมมาก ๆ นั่นอาจมีการผิดปกติ ให้นำรถเข้ามาให้ช่าง
ตรวจหาสาเหตุและทำการแก้ไข
- ตรวจเช็คระบบคอยล์จุดระเบิดให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์อยู่เสมอ เปลี่ยนหัวเทียนทุก 30,000 กม. หรือหมั่น
ดูแลให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอเพื่อป้องกันการจุดระเบิดที่ไม่สมบูรณ์ (แนะนำหัวเทียนชนิดที่เป็นแพลทินัม
หรืออิริเดียม (อายุการใช้งานนานถึง 100,000 กม.) ที่เทียบเท่าเบอร์หัวเทียนเดิมหรือเลือกเบอร์หัวเทียน
ที่ระบายความร้อนได้มากกว่าเดิมจะดีที่สุด)
หัวเทียนรถยนต์
- ตรวจเช็คระบบไฟของรถยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์อยู่เสมอ แบตเตอร์รี่ที่เสื่อมสภาพไม่ควรใช้ต่อไป ควรมี
มีการเปลียนเพื่ออาจก่อให้เกิดความเสียหาย และก่อให้เกิดประกายไฟ
- สังเกตการรั่วซึมของแก๊สซึ่งจะมีกลิ่นแก๊สให้ผู้ใช้สังเกตได้ หรือนำรถเข้าเช็คระยะกับศูนย์บริการสม่ำเสมอซึ่ง
จะมีการตรวจเช็คการรั่วซึมทุกครั้ง
- เมื่อเดินทางเป็นระยะทางไกล ๆ เช่นทุก ๆ 100 กม. ควรมีการสลับใช้น้ำมันบ้าง (ประมาณ 5-10 นาที)
ในขณะรอบเครื่องยนต์ต่ำ หรือการเดินทางระยะทางไกล้ ๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์อาจเปลี่ยนมาใช้ระบบ
น้ำมัน เพื่อให้ระบบจ่ายน้ำมันได้ทำงานสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสียหายของหัวฉีดน้ำมัน ท่อยางส่งน้ำมัน
และปั๊มน้ำมัน และช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้ด้วย
- เปลี่ยนอุปกรณ์แก๊สตามอายุการใช้งาน และคำแนะนำของช่าง
- ตรวจเช็คบ่าวาล์วและตั้งวาล์วทุก 40,000 กม. เพื่อป้องกันอาการวาล์วยัน กำลังเครื่องตกหรือเครื่องสั่น
ขณะขับขี่
- หมั่นตรวจสอบระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์
เกิดความร้อนสูงกว่าปกติ (Over Heat) จนทำให้เครื่องยนต์เกิดการสึกหรอเร็วขึ้น
- ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งที่เติมแก๊ส และไม่ก่อประกายไฟในขณะที่เติมเชื้อเพลิงรถ เช่นการจุดบุหรี่
- อย่าลืมนำรถเข้าตรวจสภาพถังกับศูนย์บริการแก๊สเพื่อนำใบตรวจสภาพถังยื่นต่อภาษีกับกรมการขนส่ง
ที่ไกล้บ้าน โดย LPG ตรวจสภาพทุก 5 ปี , NGV ตรวจสภาพทุก 1 ปี
- เติมแก๊สไม่เกิน 85% ของถัง เพื่อเหลือพื้นที่ในถังสำหรับก๊าซขยายตัว และไม่ควรอัดแก๊ส
เพราะจะทำให้วาล์วแก๊สเสียหายได้จากแรงดันแก๊ส
- เติมแก๊สทุกครั้งเลือกปั๊มแก๊สที่มีมาตรฐานและได้คุณภาพ
- ห้ามดัดแปลงอุปกรณ์แก๊สหรือแก้ไขการติดตั้งระบบแก๊สจากศูนย์ติดตั้งที่ได้มาตรฐานด้วยตนเองหรือ
อู่ซ่อมอื่น ๆ ที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะนอกจากอาจจะติดตั้ง/แก้ไขไม่ได้คุณภาพแล้ว ยังทำให้หมด
สัญญาประกันอุปกรณ์แก๊สได้อีกด้วย
* ข้อแนะนำทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาเครื่องยนต์รถติดตั้งแก๊สเบื้องต้นเท่านั้น ผู้ใช้อย่าลืมหมั่นดูแลรักษาสภาพเครื่องยนต์ทั้งหมด นำรถเข้าตรวจเช็คกับศูนย์บริการรถยนต์อยู่เสมอ เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานของรถยนต์ของท่าน